วัดศรีสุพรรณ
สำนักสงฆ์เกาะแก้ว
|
หมู่ที่ 6 บ้านหัวดอย
หมู่ที่
9 บ้านเขื่อนแก้ว
|
วัดป่าเขื่อนแก้ว
|
หมู่ที่ 9 บ้านเขื่อนแก้ว
|
วัดป่าหัวดอย
|
หมู่ที่ 10 บ้านห้วยฮ้อม
|
วัดป่าธรรมประทีป
|
หมู่ที่ 11 บ้านเวียงคุ้ม
|
สำนักสงฆ์เทพพรมทอง
|
หมู่ที่ 12 บ้านหัวดอยสันติ
|
ความสำคัญของวันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) ถือว่าเป็นวันและช่วงเทศกาลทางศาสนาพุทธที่สำคัญเทศกาลหนึ่งในประเทศไทย โดยมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือนในช่วงฤดูฝน โดยวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8) ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งพระมหากษัตริย์และคนทั่วไปได้สืบทอดประเพณีปฏิบัติการทำบุญในวันเข้าพรรษามาช้านานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย
ในวันเข้าพรรษาและช่วงฤดูพรรษากาลตลอดทั้ง 3 เดือน พุทธศาสนิกชนชาวไทยถือเป็นโอกาสอันดีที่จะบำเพ็ญกุศลด้วยการเข้าวัดทำบุญใส่บาตร ฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งสิ่งที่พิเศษจากวันสำคัญอื่น ๆ คือ มีการถวายหลอดไฟหรือเทียนเข้าพรรษา และผ้าอาบน้ำฝน (ผ้าวัสสิกสาฏก) แก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อสำหรับให้พระสงฆ์ได้ใช้สำหรับการอยู่จำพรรษา โดยในอดีต ชายไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนเมื่ออายุครบบวช (20 ปี) จะนิยมถือบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เพื่ออยู่จำพรรษาตลอดฤดูพรรษากาลทั้ง 3 เดือน โดยพุทธศาสนิกชนไทยจะเรียกการบรรพชาอุปสมบทเพื่อจำพรรษาตลอดพรรษากาลว่า “บวชเอาพรรษา”
ประเพณีสำคัญในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา-การถวายผ้าอาบน้ำฝน
ผ้าอาบน้ำฝน หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า ผ้าอาบ (ผ้าวัสสิกสาฎก) คือ ผ้าสำหรับใช้นุ่งในเวลาอาบน้ำฝนหรืออาบน้ำทั่วไป การทำผ้าอาบน้ำฝน ต้องทำให้ถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติ โดยประมาณที่พระพุทธองค์ทรงอนุญาตไว้ คือ เป็นผ้าผืนยาว 6 คืบ พระสุคตกว้าง 2 คืบครึ่ง คิดโดยประมาณของช่างไม้ปัจจุบันยาวรวม 4 ศอก กับ 3 กระ เบียด กว้างราว 1 ศอก 1 คืบกับ 4 นิ้ว 1 กระเบียดเศษ ถ้าทำให้ยาวหรือกว้างเกินประมาณนี้ไป พระภิกษุใช้สอยต้องอาบัติ ต้องตัดส่วนที่กว้างหรือยาวเกินประมาณนั้นออกเสีย จึงแสดงอาบัติได้ กำหนดถวายระหว่างข้างขึ้นเดือน 8 ตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำไป แต่ในปัจจุบันโดยมากกำหนดวันถวายเป็นหมู่ ณ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 คือ ก่อนวันเข้าพรรษา 1 วัน
อานิสงส์ ของการถวายเทียนพรรษา
การถวายเทียนพรรษานี้เป็นโบราณประเพณีที่ทำสืบๆ มาเป็นเวลาช้านาน เมื่อถึงฤดูเข้าพรรษา ภิกษุทั้งปวงต้องจำพรรษาในอาวาสของตน 3 เดือน พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงได้จัดทำให้เป็นกุศลพิธีขึ้น เมื่อได้นำเทียนไปถวายพระสงฆ์แล้ว ท่านก็จะได้จุดบูชาต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถ ผู้ถวายย่อมได้รับอานิสงค์ คือ- ทำให้เกิดปัญญา ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เปรียบเหมือนแสงสว่างแห่งเทียน
- ทำให้สว่างไสวรุ่งเรือง ผู้ถวายย่อมทำให้มีความรุ่งเรืองด้วย ลาภ ยศ สรรเสริ
- ทำให้คลี่คลายเรื่องราวต่างๆ ที่มีปัญหาให้ร้ายกลายเป็นดี
- เจริญไปด้วยมิตรบริวาร
- ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย
- เมื่อจากโลกนี้ไปย่อมมีกายทิพย์อันสว่างไสว
- เมื่อลาลับโลกนี้ไปย่อมไปสู่สุคติสวรรค์
- หากบารมีมากพอ ย่อมทำให้เกิดดวงตาจักษุ คือปัญญารู้แจ้งเข้าสู่พระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ยินดีรับข้อติชมครับ