ด้วยกระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงความสำคัญยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์จนถึงปฐมวัย การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น การพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัยแรงาน รวมถึงการส่งเสริมศักยภาพวัยผู้สูงอายุ ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 และพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย และประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องนโยบาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
1. ปลดล็อก ปรับเปลี่ยน และเปิดกว้าง ระบบการบริหารจัดการและการพัฒนากำลังคนโดยมุ่งปฏิรูปองค์การเพื่อหลอมรวมภารกิจและบุคลากร เช่น ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านการต่างประเทศ ด้านเทคโนโลยี ด้านกฎหมาย ฯลฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเป็นเอกภาพ รวมทั้งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการบริหารงานและการจัดการศึกษา
2. ปลดล็อก ปรับเปลี่ยน และเปิดกว้าง ระบบการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ โดยมุ่งให้ครอบคลุมถึงการจัดการศึกษาเพื่อคุณวุฒิ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สมารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
3. ปลดล็อก ปรับเปลี่ยน เปิดกว้าง ที่เป็นเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุผลตามนโยบายการศึกษายกกำลังสอง (Thailand Education Eco - System: TE2S) การศึกษาที่เข้าใจ Supply และตอบโจทย์ Demand โดยให้ทุกหน่วยงานพิจารณาวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกันอย่างรอบด้าน ครบถ้วนร่วมกันพิจารณาหาแนวทาง ขั้นตอน และวิธีการดำเนินการร่วมกันแบบบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วน
จุดเน้นประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2565
การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
1.
ICT (Information and Communication Technologies) เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารประกอบด้วย 7
เรื่องย่อย ได้แก่
1.1 Data
Center ศูนย์ข้อมูลกลาง
1.2 Big Data ข้อมูลขนาดใหญ่ (คลังข้อมูล การนำข้อมูลมารวมกัน)
1.3 Platform (e-library e-learning และ Teaching Resource Platform)
1.4 e-book
1.5 e-office
e-mail และ document
1.6 ระบบบริหารจัดการห้องเรียน
School และ Classroom Management
1.7
โครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure (Internet)
2. การจัดการองค์ความรู้และยกระดับทักษะที่จำเป็น
เน้นพัฒนาความรู้และสมรรถนะด้าน Digital Literacy
สำหรับผู้เรียนที่มีความแตกต่างกันตามระดับและประเภทของการจัดการศึกษา เช่น STEM Coding เป็นต้น
3.
การศึกษาเพื่อทักษะอาชีพและการมีงานทำ พัฒนา 3 ทักษะหลัก
ได้แก่ 1) โลกทัศน์อาชีพ 2) การเสริมทักษะใหม่
(Up Skl) และ 3) การเพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็น
(Re-Skills)
ให้แก่กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย
3.1 ผู้อยู่ในระบบการศึกษา
(การศึกษาขั้นพื้นฐาน และอาชีวศึกษา)
3.2 ผู้อยู่นอกระบบการศึกษา
3.3 วัยแรงาน
3.4 ผู้สูงอายุ
เพื่อให้มีทักษะและสมรรถนะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัลและอาชีพที่เกิดขึ้นใหม่
(Digital Disruption) โดยเน้นเพิ่มบทบาทของ กศน. ในการ Re-Skills ด้านอาชีวศึกษากับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
4.
การต่างประเทศ เน้นภารกิจที่ต้องใช้ความร่วมมือระดับนานาชาติในการจัดหาครูชาวต่างชาติให้แก่สถานศึกษาทุกระดับ
ทุกประเภทของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อจัดการศึกษาในสถานศึกษา 2 ด้านหลัก ๆ ได้แก่
4.1 ด้านภาษาต่างประเทศ
4.2 ด้านวิชาการ
โดยเฉพาะอาชีวศึกษา
5.
กฎหมายและระเบียบ เน้นแผนงาน 2 เรื่อง
ที่บรรจุอยู่ในแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 :
การปฏิรูประบบการศึกษาและการเรียนรู้โดยรวมของประเทศโดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่ชาติฉบับใหม่และกฎหมายลำดับรอง
มีประเด็นปฏิรูป 5 ประเด็น ได้แก่
Ø การมีพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ....
และมีการทบทวน จัดทำ แก้ไขและปรับปรุงกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้อง
Ø
การสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน เพื่อการจัดการศึกษา
Ø การขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาตนเองและการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เพื่อรองรับการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต
Ø
การทบทวนและปรับปรุงแผนการศึกษาแห่งชาติ
Ø
การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ
เรื่องที่ 6 : การปรับโครงสร้างของหน่วยงานในระบบการศึกษา
ประกอบด้วยประเด็นปฏิรูป 3 ประเด็น ได้แก่ สถานศึกษามีความเป็นอิสระในการบริหารและจัดการศึกษา
พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา การปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ
6. ระบบบริหารจัดการและการพัฒนาบุคลากร
โดยรวบรวมหลักสูตรวิชาการของแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการจัดฝึกอบรมให้แต่ละกลุ่มเป้าหมายและใช้ประโยชน์จากสถาบันพัฒนาที่มีอยู่แล้ว
เช่น สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเป็นหน่วยงานกลาง
ในการจัดฝึกอบรมพัฒนาทักษะสมรรถนะให้แก่บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารหน่วยงานทุกระดับผู้บริหารสถานศึกษาทุกระดับ
ทุกประเภท ครู อาจารย์ และบุคลากรอื่น ๆ) รวมทั้งพัฒนายกระดับให้เป็นสถาบันฝึกอบรมระดับนานาชาติ
7. การประชาสัมพันธ์
โดยจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ของกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ดำเนินการผลิตสื่อและจัดทำเนื้อหา (Content)
เพื่อเผยแพร่ผลงาน กิจกรรมและการเข้าร่วมงานต่าง ๆ ของทุกหน่วยงานในภาพรวมของ ศธ.
8.
การพัฒนาเด็กปฐมวัย
ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายและแนวปฏิบัติในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
9. การพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก โดยการส่งเสริมโครงการ 1
ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ
10. การรับเรื่องราวร้องทุกข์ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการ
เช่น การยกระดับตอบรับอัตโนมัติเพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น (Call Center ด้านกฎหมาย)
การวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการการรับเรื่องราวร้องทุกข์ในภาพรวมของกระทรวงศึกษาธิการ
11. การปฏิรูปองค์กรและโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ
12. การพัฒนาครู ในสาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อให้มีมาตรฐานวิชาชีพที่สูงขึ้น
13. การศึกษายกกำลังสอง
โดย
Ø พัฒนาครูทุกระดับให้มีทักษะ
ความรู้ที่จำเป็น เพื่อทำหน้าที่วิทยากรมืออาชีพ (Train the
Trainer) และขยายผลการพัฒนาผ่านศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ
(Human Capital Excellence Center: HCEC)
Ø จัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านเว็บไซต์
www.deep. go.th โดยปลดล็อกและเปิดกว้างให้ภาคเอกชนสมารถเข้ามาพัฒนาเนื้อหา
เพื่อให้ผู้เรียน ครู และผู้บริหารทางการศึกษามีทางเลือกในการเรียนรู้ที่หลากหลาย
และตลอดเวลาผ่านแพลตฟอร์มด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ (Digital Education Excellence Platform :DEEP)
Ø ให้ผู้เรียน ครู
ผู้บริหารทางการศึกษามีแผนพัฒนารายบุคคลผ่านแผนพัฒนารายบุคคลสู่ความเป็นเลิศ (Excellence
Individual Development Plan: EIDP)
Ø จัดทำ
"คู่มือมาตรฐานโรงเรียน"
เพื่อกำหนดให้ทุกโรงเรียนต้องมีพื้นฐานที่จำเป็น
การสร้างความสามารถในการแข่งขัน
- มุ่งเน้นการศึกษาเพื่อทักษะอาชีพและการมีงานทำด้วยคุณภาพ
โดยสร้างค่านิยมอาชีวศึกษา และเติมเต็มช่องว่างระหว่างทักษะ (Full fll Skil
Gaps) โดยขยายและยกระดับอาชีวศึกษาทวิภาคีสู่คุณภาพมาตรฐาน
เน้นร่วมมือกับสถานประกอบการชั้นนำ (Tailor-made Curriculum) ขับเคลื่อนความร่วมมือการจัดการอาชีวศึกษาระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนสู่มาตรฐานนานาชาติ
- มุ่งเน้น Re-Skills, Up Skill และ New Skill การฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้น รวมทั้งผลิตกำลังแรงงานที่มีคุณภาพตามความเป็นเลิศของแต่ละสถานศึกษาและตามบริบทของพื้นที่
เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศและสถานประกอบการ
- มุ่งเน้นพัฒนาศูนย์ประสานงานกลางการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (TVET Excellence Center) สู่มาตรฐานสากล
ผลิตอาชีวะพันธุ์ใหม่ รวมถึงการนำนวัตกรรม Digtal เพื่อมุ่งสู่การอาชีวศึกษาดิจิทัล
(Digital College)
- มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาให้เป็นผู้ประกอบการ
พัฒนาทักษะการเรียนรู้ผู้เรียนเพื่อการดำรงชีวิตให้มีคุณลักษณะอันพึงประสด์และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่
21
(Technical Vocational Education and Training:
TVET, Student Skill Set) รวมทั้งให้ความร่วมมือในการพัฒนาขีดความสามารถของผู้เรียนผ่านการฝึกประสบการณ์วิชาชีพในต่างประเทศและการแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ
- มุ่งเน้นการเพิ่มปริมาณผู้เรียนในหลักสูตรอาชีวศึกษา
สร้างภาพลักษณ์สถานศึกษาอาชีวศึกษา
เพื่อดึงดูดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเรียน
- สนับสนุนให้สถานศึกษาอาชีวศึกษาบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ
และจัดการเรียนการสอนด้วยเครื่องมือปฏิบัติที่ทันสมัย
การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา
Ø ขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
พ.ศ. 2562
Ø
ส่งเสริมให้ผู้เรียนที่ยุติการศึกษาทั้งก่อนและหลังสำเร็จการศึกษาภาคบังคับให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาภาคบังคับ
การจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Ø เสริมสร้างการรับรู้
ความเข้าใจ ความตระหนัก และส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
Ø ส่งเสริมการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ให้สามารถเป็นอาชีพ และสร้างรายได้การพัฒนาการศึกษาเพื่อความมั่นคง
Ø ฝ้าระวังภัยทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
ครู และสถานศึกษาการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการ
Ø
ปฏิรูปองค์การเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล และความเป็นเอกภาพของหน่วยงาน
Ø ปรับปรุงกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคและข้อจำกัดในการดำเนินงาน
โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เรียนและประชาชน ตลอดจนกระทรวงศึกษาธิการโดยรวม
Ø ยกระดับการประเมินคุณธรรมและความโปร่ใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ(Integrity and
Transparency Assessment : ITA)
ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
Ø
พัฒนาระบบฐานข้อมูลด้านการศึกษา (Big Data)
การขับเคลื่อนนโยบายและจุดเน้นสู่การปฏิบัติ
1. ให้ส่วนราชการ
หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ นำนโยบายและจุดเน้นเป็นกรอบแนวทางในการวางแผนและจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำงบประมาณ พ.ศ.
2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทวงศึกษาธิการได้ให้แนวทางในการบริหารงบประมาณไว้
2. ให้มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล
และรายงานการขับเคลื่อนนโยบายและจุดเน้นสู่การปฏิบัติระดับพื้นที่
โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน
สำนักงานศึกษาธิการภาคและสำนักตรวจราชการและติดตามประเมินผล สป.
เป็นฝ้ายเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการตามลำดับโดยมีบทบาทภารกิจในการตรวจราชการ
ติดตาม ประเมินผลในระดับนโยบาย
และจัดทำรายงานเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการติดตาม
ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ทราบตามลำดับ
3.
กรณีมีปัญหาในเชิงพื้นที่หรือข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน ให้ศึกษา
วิเคราะห์ข้อมูลและดำเนินการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ก่อน
โดยใช้ภาคีเครือข่ายในการแก้ไขข้อขัดข้อง พร้อมทั้งรายงานต่อคณะกรรมการติดตามฯ
ข้างต้น ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการตามลำดับ
อนึ่ง
สำหรับภารกิจของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่ปฏิบัติในลักษณะงานในเชิงหน้าที่ (Function) งานในเชิงยุทธศาสตร์ (Asenda) และงานในเชิงพื้นที่
(Area) ซึ่งได้ดำเนินการอยู่ก่อนเมื่อรัฐบาล หรือกระทรวง
ศึกษาธิการมีนโยบายสำคัญเพิ่มเติมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
นอกเหนือจากที่กำหนดหากมีความสอดคล้องกับหลักการนโยบายและจุดนั้นข้างตัน
ให้ถือเป็นหน้าที่ของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งรัด กำกับ
ติดตาม ตรวจสอบให้การดำเนินการเกิดผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรมด้วยเช่นกัน
..........................................
ประกาศโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการณ
วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.
2563