ช่วยแปล


ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“Soft Power” ไก่ไข่ SDG (แบรนใหม่โรงเรียนบ้านหัวดอย)

            หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มีความสำคัญต่อประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทยทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ พร้อมรับต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดนโยบายขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาในทุกระดับเพื่อให้นักเรียนนักศึกษามีความรู้ความเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยนำมาบูรณาการในการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดความตระหนักรู้ภายในตนเองอย่างยั่งยืน ในการนี้ 

                โรงเรียนได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับภารกิจ ที่มุ่งเน้นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้วยภูมิปัญญาบูรณาการด้วยองค์ความรู้อันหลากหลาย โดยสร้างกระบวนการเรียนรู้งานด้านการเกษตร และระบบสังคม บูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน

กิจกรรมการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี
    1. นักเรียนสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
    2. นักเรียนนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
    3. โรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรตามวิถีความพอเพียงที่มีคุณภาพ

                
 เรื่องราวของไก่ไข่สามารถเป็นซอฟพาวเวอร์ที่น่าสนใจได้มากทีเดียว   การใช้ไก่ไข่เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความมั่นคงทางอาหาร  นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมโยงกับการส่งเสริมอาชีพการเกษตรที่ยั่งยืน  และเป็นการพัฒนาการเรียนรู้หรือบูรณาการสำหรับกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายได้อีกด้วย

ตัวอย่างเช่น:
  1. การเล่าเรื่องผ่านสื่อ  สร้างภาพยนตร์หรือสารคดีเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ไข่ในโรงเรียน หรือในชุมชนต่างๆ แสดงให้เห็นถึงวิธีการเลี้ยงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการสร้างรายได้  สร้างอาชีพเสริมให้กับครอบครัว
  2. การศึกษาและการฝึกอบรม  จัดโครงการฝึกอบรมการเลี้ยงไก่ไข่ให้กับชุมชน เพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเองและการพัฒนาที่ยั่งยืน
  3. การตลาดและการประชาสัมพันธ์  ใช้ไก่ไข่เป็นสัญลักษณ์ในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น ไข่ไก่ออร์แกนิก หรือผลิตภัณฑ์จากไก่ไข่ที่มีคุณภาพสูง
  4. การสร้างแบรนด์  สร้างแบรนด์ที่เน้นการเลี้ยงไก่ไข่แบบยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
การใช้ไก่ไข่เป็นซอฟพาวเวอร์สามารถสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกได้อย่างมากมาย 

พาไปรู้จักครูผู้รับผิดชอบ  คลิก.... ดูได้ที่  👉👉👉 Facebook  

ผลผลิต




การบูรณาการเลี้ยงไก่ไข่ในบ่อปลาสามารถเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้หลายประการ ดังนี้:
  1. เป้าหมายที่ 1: ขจัดความยากจน - การเลี้ยงไก่ไข่และปลาเป็นแหล่งรายได้เสริมให้กับชุมชน ช่วยลดความยากจนและเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน

  2. เป้าหมายที่ 2: ขจัดความหิวโหย - ไข่ไก่และปลาที่ได้จากการเลี้ยงสามารถนำมาใช้เป็นอาหารกลางวันสำหรับนักเรียน ช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและลดปัญหาความหิวโหย

  3. เป้าหมายที่ 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี - การบริโภคไข่ไก่และปลาที่มีคุณภาพสูงช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียนและชุมชน

  4. เป้าหมายที่ 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ - การทำกิจกรรมเลี้ยงไก่ไข่และปลาเป็นการเรียนรู้ที่มีคุณค่า ช่วยเสริมสร้างทักษะและความรู้ในด้านการเกษตรและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ

  5. เป้าหมายที่ 8: การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ - การเลี้ยงไก่ไข่และปลาสามารถสร้างงานและโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน

  6. เป้าหมายที่ 12: การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน - การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพในการเลี้ยงไก่ไข่และปลา ช่วยลดของเสียและส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืน

  7. เป้าหมายที่ 15: การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน - การเลี้ยงไก่ไข่และปลาในบ่อช่วยส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การบูรณาการเลี้ยงไก่ไข่ในบ่อปลาไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายด้านอีกด้วย 

ไข่ไก่ ส่วนผสมขนมมนุษย์สัมพันธ์  วัฒนธรรมไทยที่ดี ความเมตาปราณีค่านิยมดีๆของคนไทย








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ยินดีรับข้อติชมครับ